โหราศาสตร์

โหราศาสตร์

โหราศาสตร์

ไขความลับของจักรวาลด้วยข้อมูลทางโหราศาสตร์กับ Astology Forum

Astrology Forum เว็ปไซต์ โหราศาสตร์ เพื่อ ไขความลับของดวงชะตา ปรับแก้ให้เหมาะสม ตามความต้องการของคุณ เราจะให้คำแนะนำและความรู้เกี่ยวกับ โหราศาสตร์ ตั้งแต่พื้นฐาน การทำความเข้าใจเกี่ยวกับ ราศี ของคุณไปจนถึง การทำนาย การเรียงตัวของดาวเคราะห์ ซึ่งความรู้ โหราศาสตร์ Astrology Forum ถูกออกแบบมาโดยเฉพาะให้มีความเหมาะแก่ทุกคนที่ต้องการเริ่มต้น เรียนรู้ เพื่อค้นพบตัวเองในรูปแบบที่ดีกว่า ด้วยการวิเคราะห์แผนภูมิเกิดและการทำความเข้าใจลักษณะเฉพาะของแต่ละราศี คุณจะสามารถค้นพบวิธีการใช้พลังที่ซ่อนอยู่ในดวงดาวเพื่อเสริมสร้างความเข้าใจในตัวเองและเปิดโอกาสให้เติบโตและพัฒนาในชีวิตประจำวันได้อย่างมีประสิทธิภาพ

 

Astrology Forum เรามุ่งมั่นที่จะให้คุณได้รับคำแนะนำที่ถูกต้องและตรงจุด เพื่อให้คุณสามารถเผชิญกับความท้าทายและโอกาสในชีวิตด้วยความมั่นใจและความรู้ที่มากขึ้น มาไขความลับจากดวงดาวไปด้วยกันกับ Astrology Forum

โหราศาสตร์คืออะไร?

โหราศาสตร์ เป็นการศึกษาการเรียงตัวของดาวบนท้องฟ้า ที่จะส่งผลต่อเหตุการณ์ระดับโลก และ เชื่อว่าการเรียงตัวของดวงดาวยังมีความเกี่ยวพันธ์ที่สอดคล้องกับพฤติกรรมของมนุษย์อีกด้วย ดังนั้น โหราศาสตร์ มักจะถูกใช้เพื่อตีความโดยมีเป้าหมายเพื่ออธิบายมีอิทธิพลดวงดาวว่าต่อการดำรงชีวิตของเราอย่างไร ซึ่งแตกต่างจากดาราศาสตร์ทั่วไปซึ่งเป็นเพียงการศึกษาวัตถุท้องฟ้าทางวิทยาศาสตร์เท่านั้น

คำจำกัดความ และวัตถุประสงค์ของ โหราศาสตร์

โหราศาสตร์ เป็นการศึกษาการเรียงตัวของดาวบนท้องฟ้า ที่จะส่งผลต่อเหตุการณ์ระดับโลก และ เชื่อว่าการเรียงตัวของดวงดาวยังมีความเกี่ยวพันธ์ที่สอดคล้องกับพฤติกรรมของมนุษย์อีกด้วย ดังนั้น โหราศาสตร์ มักจะถูกใช้เพื่อตีความโดยมีเป้าหมายเพื่ออธิบายมีอิทธิพลดวงดาวว่าต่อการดำรงชีวิตของเราอย่างไร ซึ่งแตกต่างจากดาราศาสตร์ทั่วไปซึ่งเป็นเพียงการศึกษาวัตถุท้องฟ้าทางวิทยาศาสตร์เท่านั้น

 

วัตถุประสงค์หลักของ โหราศาสตร์ คือการให้คำแนะนำและข้อมูลเชิงลึก ซึ่งเป็นประโยชน์ต่อบุคคลในหลายๆ ด้าน:

 

  • รู้จักตนเอง: โหราศาสตร์ ช่วยให้เข้าใจบุคลิกภาพ จุดแข็ง และความท้าทายของแต่ละคนได้อย่างลึกซึ้งยิ่ง โดยการวิเคราะห์ดวงชะตา ตามรูปแบบดวงดาวภายในดวง ซึ่งทำให้เจ้าชะตาสามารถมองเห็นตัวเองได้ชัดเจนขึ้น เข้าใจถึงแรงจูงใจ ความปรารถนา และอุปสรรคในชีวิตประจำวัน นำไปสู่การเติบโตและพัฒนาตนเองในด้านที่ต้องการปรับปรุง

 

  • การสร้างความสัมพันธ์: โหราศาสตร์ สามารถให้ความกระจ่างเกี่ยวกับความเข้ากันได้ ทั้งในด้านความสัมพันธ์ เรื่องส่วนตัว และการงานอาชีพ ซึ่งช่วยให้เจ้าชะตาเข้าใจถึงวิธีการสื่อสารและการประสานงานกับผู้อื่นมากยิ่งขึ้น นอกจากนี้ยังช่วยในการเลือกคู่ครองหรือเพื่อนร่วมงานที่มีความเข้ากันได้ดี เพื่อเสริมสร้างความสัมพันธ์ให้ยั่งยืน

 

  • การตัดสินใจอย่างแม่นยำ: โหราศาสตร์ ให้คำแนะนำเกี่ยวกับช่วงเวลาและผลลัพธ์ที่อาจเกิดขึ้นผ่านดวงชะตาและการทำนาย ซึ่งช่วยให้ผู้คนสามารถวางแผนและตัดสินใจได้อย่างรอบคอบ ไม่ว่าจะเป็นการลงทุน การเปลี่ยนงาน หรือการตัดสินใจเกี่ยวกับชีวิตส่วนตัว

 

  • การพัฒนาตนเอง: โหราศาสตร์ อาจสร้างแรงบันดาลใจให้เกิดการตระหนักรู้ในหน้าที่ตนเองและการเติบโตโดยชี้ให้เห็นถึงศักยภาพ จุดแข็ง และจุดอ่อน ทำให้บุคคลมีโอกาสใช้ข้อมูลเหล่านี้ เป็นฐานในการพัฒนาตัวให้เติบโตไปสู่อนาคตที่ดียิ่งขึ้นโดยใช้ข้อมูลเชิงลึกจากจักรวาล

 

จากข้อมูลข้างต้น คุณจะพบว่า โหราศาสตร์ สามารถทำให้คุณเห็นโอกาสและความท้าทายในชีวิต การใช้เครื่องมือนี้เป็นจะเป็นประโยชน์สำหรับการวิเคราะห์ตนเอง ตอนนี้! Astrology Forum จะนำพวกคุณไปรู้จักโหราศาสตร์ และการประยุกต์ใช้ให้มากขึ้น

บทบาทของโหราศาสตร์ในวัฒนธรรมต่างๆ

โหราศาสตร์ มีบทบาทสำคัญในหลายวัฒนธรรมทั่วโลก โดยแต่ละวัฒนธรรมได้พัฒนาองค์ความรู้ การตีความ และ ระบบที่เป็นเอกลักษณ์ของตนเอง ซึ่ง Astrology Forum สามารถจำแนกวัฒนธรรมของ โหราศาสตร์ ได้ดังนี้

Western-Astrology-คือ
โหราศาสตร์พระเวท
Chinese-Astrology

โหราศาสตร์ตะวันตก

 

 

  • ต้นกำเนิดและการพัฒนา: โหราศาสตร์ตะวันตกมีต้นกำเนิดจากอารยธรรมบาบิโลนและกรีกโบราณ ซึ่งได้มีการเปลี่ยนแปลงไปตามยุคสมัยด้วยอิทธิพลของ โรมัน อาหรับ และยุโรป โดยหัวใจหลักของโหราศาสตร์ตะวันตกคือระบบจักรราศีแบบเขตร้อน ซึ่งแบ่งปีออกเป็น 12 ราศีตามฤดูกาล

 

  • ความสำคัญทางวัฒนธรรม: โหราศาสตร์มีอิทธิพลต่อศิลปะ วรรณกรรม และแม้กระทั่งวิทยาศาสตร์ในประเทศตะวันตก ซึ่งมีความสำคัญทางวัฒนธรรมและถูกนำมาใช้ในการปรึกษาส่วนบุคคล การตัดสินใจของรัฐบาล และการทำนายเหตุการณ์

 

  • ประเด็นหลัก: โหราศาสตร์ตะวันตก ยึดตาม พระอาทิตย์ และใช้ แผนภูมิเกิด ซึ่งประกอบด้วย 12 ราศี ดาวเคราะห์ และเรือนต่างๆ โดยแต่ละองค์ประกอบมีบทบาทสำคัญในบุคลิกภาพและเส้นทางชีวิตของแต่ละบุคคล

โหราศาสตร์พระเวท

(โหราศาสตร์ภารตะ)

 

  • ต้นกำเนิดและการพัฒนา: โหราศาสตร์เวท หรือที่รู้จักในชื่อ โชติษะ (Jyotish) มีต้นกำเนิดจากอินเดียโบราณ โดยอาศัยพระเวท ซึ่งเป็นคัมภีร์ศักดิ์สิทธิ์ที่มีอายุกว่าพันปี โหราศาสตร์เวทมุ่งเน้นไปที่การใช้ระบบ จักรราศี แบบ นิรายนะ ซึ่งสอดคล้องกับตำแหน่งที่แท้จริงของดวงดาวและดาวเคราะห์ในท้องฟ้า

 

  • ความสำคัญทางวัฒนธรรม: โหราศาสตร์เวท มีบทบาทสำคัญใน วัฒนธรรมอินเดีย ตั้งแต่การเลือกวันมงคลสำหรับงานแต่งงานไปจนถึงการวางแผนกิจกรรมสำคัญในชีวิต โดยมีอิทธิพลต่อการตัดสินใจในชีวิตประจำวันและการพัฒนาจิตวิญญาณ

 

  • ประเด็นหลัก: โหราศาสตร์เวท ใช้แผนภูมิเกิดที่ประกอบด้วยราศี ดาวเคราะห์ และนักษัตร โดยให้ความสำคัญกับตำแหน่งของ พระจันทร์ ในขณะที่เกิด และแต่ละราศีมีลักษณะเฉพาะตัวที่มีอิทธิพลต่อบุคลิกภาพและชะตากรรม

โหราศาสตร์จีน

 

 

  • ต้นกำเนิดและการพัฒนา: โหราศาสตร์จีน มีต้นกำเนิดจากปรัชญาและวัฒนธรรมจีนโบราณ โดยใช้ระบบที่เรียกว่า 12นักษัตร ซึ่งหมุนเวียนทุก 12 ปี โดยแต่ละปีจะมีสัตว์ประจำปีและลักษณะเฉพาะ

 

  • ความสำคัญทางวัฒนธรรม: โหราศาสตร์จีน มีบทบาทสำคัญในประเพณีและวัฒนธรรมจีน ตั้งแต่การเฉลิมฉลองปีใหม่ไปจนถึงการเลือกชื่อที่เหมาะสม โดยมีอิทธิพลต่อวิถีชีวิตและการตัดสินใจของผู้คน

 

  • ประเด็นหลัก: โหราศาสตร์จีน ใช้ระบบที่ผสมผสานระหว่าง 12นักษัตร และ 5ธาตุ ซึ่งรวมกันเพื่อสร้างวงจรที่มีลักษณะเฉพาะ โดยแต่ละองค์ประกอบมีบทบาทสำคัญในความเข้าใจบุคลิกภาพและชะตากรรม

โหราศาสตร์ แบ่งออกเป็นหลากหลายสาขา แต่ละสาขามุ่งเน้นในมุมมองที่แตกต่างกัน:

 

  • โหราศาสตร์ ชะตากำเนิด: ทำการวิเคราะห์ แผนภูมิการเกิด ของบุคคลแต่ละบุคคลเพื่อเข้าใจข้อมูลเชิงลึกเกี่ยวกับลักษณะนิสัยและเส้นทางชีวิต ซึ่งช่วยให้เข้าใจถึงตัวตนและการพัฒนาตัวเองได้ดียิ่งขึ้น

 

  • โหราศาสตร์ เสี่ยงทาย: ใช้ตอบคำถามเฉพาะด้วยการเสี่ยงทาย โดยอาศัยการวิเคราะห์ตำแหน่งของดาวเคราะห์ในเวลาที่ตั้งคำถาม ซึ่งเป็นเครื่องมือที่ทาง โหราศาสตร์ ที่เหมาะสำหรับการหาคำตอบและคำแนะนำในช่วงเวลาสำคัญของชีวิต

 

  • โหราศาสตร์ เหตุการณ์โลก: ตรวจสอบเหตุการณ์และแนวโน้มของโลก โดยศึกษาตำแหน่งของวัตถุท้องฟ้า ซึ่งสามารถให้ข้อมูลเชิงลึกเกี่ยวกับการเปลี่ยนแปลงทางสังคมและการเมืองได้

 

  • โหราศาสตร์ ฤกษ์ยาม: ใช้กำหนดเวลาที่ดีที่สุดสำหรับการทำกิจกรรมที่สำคัญ เช่น การแต่งงานหรือการเริ่มธุรกิจ เพื่อเพิ่มโอกาสในการประสบความสำเร็จและความสุข

 

การทำความเข้าใจ โหราศาสตร์ แต่ละสาขาสามารถช่วยให้เราพบเส้นทางชีวิตที่จะไปสู่ความสำเร็จ โดยใช้ความรู้จากดวงดาวในการประกอบการตัดสินใจและเข้าใจเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นทั้งในระดับบุคคลและระดับโลก

โหราศาสตร์ตะวันตก (Western Astrology)

โหราศาสตร์ตะวันตก มีประวัติศาสตร์ที่ยาวนานและเป็นระบบที่ซับซ้อนด้วยการใช้สัญลักษณ์ต่าง ๆ ซึ่งแทนความหมายที่ช่วยให้เราสามารถตรวจสอบ บุคลิกภาพ ความสัมพันธ์ และ เส้นทางชีวิต ของเราได้อย่างละเอียด โดย โหราศาสตร์ตะวันตก นั้นมีพื้นฐานมาจากจักรราศีแบบเขตร้อน ซึ่งเป็นกำหนดราศีตามการมาถึงของฤดูใบไม้ผลิ ขณะที่โหราศาสตร์เวท หรือ โหราศาสตร์ตะวันออก ใช้ จักรราศีแบบนิราย ซึ่งเรียงตรงกับดาวฤกษ์สไปกา (Spica) ซึ่งถือว่าอยู่ตรงข้ามกับจุดเริ่มต้นของ ราศีเมษ อย่างพอดี ปัจจุบันดาวดวงนี้ตั้งอยู่ใกล้กับองศาที่ 24 ของราศีตุลย์ในจักรราศีแบบเขตร้อน

 

จักรราศีแบบเขตร้อน และ จักรราศีแบบนิรายนะ จะตรงกันทุกๆ 25,920 ปี ซึ่งการเรียงตัวเช่นนี้จะไม่เกิดขึ้นอีกหลายพันปี โหราศาสตร์ตะวันตก จึงมีความพิเศษในเรื่องการศึกษาความสัมพันธ์ระหว่างตำแหน่งของดวงดาวและฤดูกาล ซึ่งสามารถสะท้อนถึงลักษณะบุคคลและเส้นทางชีวิตได้อย่างมีนัยสำคัญ

Western_astrology_chart

โหราศาสตร์ตะวันตก ตามระบบจักรราศีแบบเขตร้อน ได้กำหนดความหมายของเรือนโหราศาสตร์ และการตีความดวงชะตาในแบบเฉพาะของโหราศาสตร์ตะวันตก ดังนั้นการใช้งาน โหราศาสตร์ตะวันตก จำเป็นต้องศึกษาแผนภูมิเกิดที่ประกอบด้วย 12 ราศี ดาวเคราะห์ที่สถิตในแต่ละเรือน และความหมายของเรือนต่าง ๆ ซึ่งแต่ละองค์ประกอบมีบทบาทสำคัญในการวิเคราะห์และทำความเข้าใจชีวิตของแต่ละบุคคล

 

ในท้ายที่สุด โหราศาสตร์ตะวันตก จะช่วยให้เราเข้าใจถึงตัวเอง และ บุคคลรอบข้างได้อย่างลึกซึ้งมากยิ่งขึ้น ซึ่งถือเป็นการผสมผสานระหว่างศิลปะและวิทยาศาสตร์ที่ทำให้เกิดการวิเคราะห์ที่มีความหมายและเป็นประโยชน์ต่อการพัฒนาตนเองในหลาย ๆ ด้าน

ต้นกำเนิด และประวัติของโหราศาสตร์ตะวันตก

โหราศาสตร์ตะวันตก มีต้นกำเนิดมาจากเมโสโปเตเมียโบราณ ซึ่งชาวบาบิโลเนียได้สร้างระบบจักรราศีขึ้นในปี 2000 ก่อนคริสตกาล แนวคิดเกี่ยวกับ จักรราศี ทั้งสิบสองราศี ถูกนำเสนอครั้งแรกโดยชาวกรีกซึ่งในที่สุดก็ยอมรับและปรับปรุงระบบโบราณนี้ให้ดียิ่งขึ้น

 

  • ยุคเมโสโปเตเมียโบราณ: ชาวบาบิโลเนียเฝ้าสังเกตท้องฟ้าและ ดาวเคราะห์ และพัฒนาระบบ จักรราศี ยุคก่อนประวัติศาสตร์ที่เชื่อมโยงการเคลื่อนที่ของ ดวงดาว บนท้องฟ้ากับเหตุการณ์ต่าง ๆ ของมนุษย์
  • ยุคกรีซ: นักดาราศาสตร์และนักปรัชญาชาวกรีกได้พัฒนา โหราศาสตร์ ให้เป็นศาสตร์ที่เป็นระบบมากขึ้น โดยการผสมผสานกับปรัชญาและคณิตศาสตร์
  • ยุคโรมัน: โหราศาสตร์ กลายเป็นปัจจัยสำคัญในการตัดสินใจทั้งภาคเอกชนและการเมืองเมื่อวัฒนธรรมโรมันยอมรับและขยายเหตุการณ์ทางโหราศาสตร์ไปทั่วยุโรป
  • ยุคกลางและยุคฟื้นฟูศิลปวิทยา: ในช่วงเวลานี้ โหราศาสตร์ ถูกใช้โดยนักวิชาการเพื่อทำความเข้าใจโลกธรรมชาติและกลายเป็นส่วนหนึ่งของวิทยาศาสตร์และการแพทย์

 

โหราศาสตร์ตะวันตก มีประวัติศาสตร์ที่เต็มไปด้วยความน่าสนใจจากการพัฒนาจากวัฒนธรรมเมโสโปเตเมียมาสู่การปรับปรุงระบบจักรราศีที่ละเอียดอ่อนโดยชาวกรีกและการขยายตัวในยุโรปด้วยอิทธิพลของโรมัน ดังนั้น โหราศาสตร์ ไม่เพียงแค่เป็นเครื่องมือสำหรับการทำนายและให้คำแนะนำส่วนบุคคลเท่านั้น แต่ยังกลายเป็นส่วนหนึ่งของวิทยาศาสตร์และการแพทย์ในยุคกลางและยุคฟื้นฟูศิลปวิทยา ช่วยให้นักวิชาการได้สำรวจความสัมพันธ์ระหว่างมนุษย์กับจักรวาลในรูปแบบที่เป็นระบบและมีโครงสร้าง

ระบบจักรราศีเขตร้อน (The Tropical Zodiac System)

ระบบจักรราศีเขตร้อน ใน โหราศาสตร์ตะวันตก ไม่ได้อิงจากดวงดาวที่คงที่เหมือนกับ ระบบจักรราศีแบบนิรายนะ แต่จะอิงตามฤดูกาลของโลก โดยระบบนี้แบ่งเส้นสุริยวิถีออกเป็น 12 ส่วนเท่าๆ กัน โดยแต่ละส่วนจะเป็นตัวแทนของราศีต่างๆ ในจักรราศี การแบ่งส่วนนี้เริ่มต้นที่จุ ดวสันตวิษุวัต (Vernal Equinox) ซึ่งเป็นจุดที่กลางวันและกลางคืนยาวเท่ากัน ซึ่งตรงกับประมาณวันที่ 21 มีนาคมของทุกปี จุดนี้จะถือเป็นจุดเริ่มต้นของราศีเมษ และเป็นจุดเริ่มต้นของปีโหราศาสตร์ใหม่ แต่ละราศีในระบบจักรราศีเขตร้อนนั้นมีความยาวเท่ากันคือ 30 องศา ซึ่งแสดงถึงช่วงเวลาประมาณหนึ่งเดือนในปฏิทิน โดยการเชื่อมโยงราศีแต่ละราศีเข้ากับฤดูกาล

 

โหราศาสตร์ตะวันตก สามารถให้การตีความเกี่ยวกับลักษณะบุคลิกภาพและแนวโน้มทางอารมณ์ของบุคคลในแต่ละช่วงเวลาของปีได้อย่างละเอียดและมีความหมาย นอกจากนี้ การใช้ระบบนี้ยังช่วยให้เราสามารถทำความเข้าใจถึงผลกระทบของการเปลี่ยนแปลงฤดูกาลต่อชีวิตและการเติบโตของเราได้อย่างลึกซึ้งมากขึ้น

 

 

การอิงตามฤดูกาลนี้ทำให้ ระบบจักรราศีเขตร้อน สามารถสะท้อนถึงพลังงานของแต่ละช่วงเวลาในปีได้ ซึ่งสามารถช่วยให้บุคคลเข้าใจวิธีการเชื่อมโยงกับสภาพแวดล้อมและการเปลี่ยนแปลงของฤดูกาลได้อย่างมีประสิทธิภาพ การแบ่งราศีตามฤดูกาลยังช่วยให้สามารถเข้าใจถึงการเปลี่ยนแปลงในลักษณะบุคลิกภาพและการพัฒนาตนเองในช่วงเวลาต่างๆ ของปีได้อย่างลึกซึ้งและเป็นประโยชน์ในการวางแผนและตัดสินใจในชีวิตประจำวัน

จักรราศี 12 ราศี

แต่ละราศีในสิบสองราศีมีลักษณะบุคลิกภาพและคุณสมบัติที่แตกต่างกัน ด้านล่างนี้คือภาพรวมสั้นๆ ของแต่ละราศี:

เมษ
ราศีเมษ (♈︎)

21 มี.ค. - 19 เม.ย. สัญลักษณ์คือแกะ ปกครองโดยดาวอังคาร แทนความกล้าหาญ พลังงาน และความเป็นผู้นำ

ราศีพฤษภ
ราศีพฤษภ (♉︎)

20 เม.ย. - 20 พ.ค. สัญลักษณ์คือวัว ปกครองโดยดาวศุกร์ แทนความมั่นคง ความอดทน และความรักในความสะดวกสบาย

ราศีเมถุน
ราศีเมถุน (♊︎)

21 พ.ค. - 20 มิ.ย. สัญลักษณ์คือคนคู่ ปกครองโดยดาวพุธ แทนการปรับตัว การสื่อสาร และความอยากรู้อยากเห็น

ราศีกรฏ
ราศีกรกฎ (♋︎)

21 มิ.ย. - 22 ก.ค. สัญลักษณ์คือปู ปกครองโดยดวงจันทร์ แทนความเอาใจใส่ ความลึกซึ้งทางอารมณ์ และสัญชาตญาณ

ราศีสิงห์
ราศีสิงห์ (♌︎)

23 ก.ค. - 22 ส.ค. สัญลักษณ์คือสิงโต ปกครองโดยดวงอาทิตย์ แทนความมั่นใจ ความคิดสร้างสรรค์ และความเอื้ออาทร

ราศีกันย์
ราศีกันย์ (♍︎)

23 ส.ค. - 22 ก.ย. สัญลักษณ์คือหญิงสาว ปกครองโดยดาวพุธ แทนความจริงใจ ความละเอียดรอบคอบ และทักษะการวิเคราะห์

ราศีตุลย์
ราศีตุลย์ (♎︎)

23 ก.ย. - 22 ต.ค. สัญลักษณ์คือคันชั่ง ปกครองโดยดาวศุกร์ แทนความสมดุล ความกลมกลืน และการทูต

ราศีพิจิก
ราศีพิจิก (♏︎)

23 ต.ค. - 21 พ.ย. สัญลักษณ์คือแมงป่อง ปกครองโดยดาวพลูโตและดาวอังคาร แทนความเข้มข้น ความหลงใหล และการเปลี่ยนแปลง

ราศีธนู
ราศีธนู (♐︎)

22 พ.ย. - 21 ธ.ค. สัญลักษณ์คือนักยิงธนู ปกครองโดยดาวพฤหัสบดี แทนการสำรวจ การมองโลกในแง่ดี และความคิดทางปรัชญา

ราศีมังกร
ราศีมังกร (♑︎)

22 ธ.ค. - 19 ม.ค. สัญลักษณ์คือแพะ ปกครองโดยดาวเสาร์ แทนความทะเยอทะยาน ระเบียบวินัย และความรับผิดชอบ

ราศีกุมภ์
ราศีกุมภ์ (♒︎):

20 ม.ค. - 18 ก.พ. สัญลักษณ์คือผู้ถือถังน้ำ ปกครองโดยดาวยูเรนัสและดาวเสาร์ แทนนวัตกรรม ความเป็นอิสระ และความเป็นมนุษยธรรม

ราศีมีน
ราศีมีน (♓︎)

19 ก.พ. - 20 มี.ค. สัญลักษณ์คือปลา ปกครองโดยดาวเนปจูนและดาวพฤหัสบดี แทนความเห็นอกเห็นใจ จินตนาการ และการตระหนักรู้ในจิตวิญญาณ

ดาวเคราะห์ และความหมาย

ตาม โหราศาสตร์ตะวันตก ดาวเคราะห์ แต่ละดวงเป็นสัญลักษณ์ของพลังงานและส่งอิทธิพลที่แตกต่างกันในแผนภูมิของบุคคลแต่ละคน ซึ่งมีรายละเอียดดังนี้:

    • ดวงอาทิตย์ (Sun – ): แทนตัวตนและอีโก้ เป็นแก่นแท้ของตัวตนที่อยู่ภายนอก ดวงอาทิตย์มีอิทธิพลต่อการถ่ายทอดความเป็นตัวตน มันเป็นตัวบ่งบอกถึงพลังงานที่ขับเคลื่อนเราสู่การประสบความสำเร็จและการเติมเต็มความต้องการในชีวิต
    • ดวงจันทร์ (Moon – ): แทนอารมณ์และสัญชาตญาณ สะท้อนถึงตัวตนภายใน ดวงจันทร์มีอิทธิพลต่อความรู้สึก ความผันผวนของอารมณ์ และความเข้าใจ เป็นตัวแทนของความต้องการทางอารมณ์และวิธีที่เราจัดการกับความรู้สึกของตนเอง
    • ดาวพุธ (Mercury – ): แทนการสื่อสารและสติปัญญา การควบคุมกระบวนการคิด ดาวพุธมีอิทธิพลต่อวิธีการคิด การเรียนรู้ และการสื่อสารของเรา เป็นตัวแทนของการเชื่อมโยงข้อมูลและการแสดงออกอย่างมีประสิทธิภาพ
    • ดาวศุกร์ (Venus – ): แทนความรัก ความงาม และความกลมกลืน มีอิทธิพลต่อความสัมพันธ์และความงาม ดาวศุกร์ส่งเสริมให้เราแสวงหาความสุข ความรัก และความงามในชีวิตประจำวัน เป็นตัวแทนของวิธีที่เรารักและสร้างสัมพันธ์กับผู้อื่น
    • ดาวอังคาร (Mars – ): แทนพลังงานและแรงขับ แสดงถึงการกระทำและความปรารถนา ดาวอังคารกระตุ้นให้เราลงมือทำและมุ่งมั่นในการทำสิ่งต่างๆ ให้สำเร็จ เป็นตัวแทนของความมุ่งมั่นและความปรารถนาในชีวิต
    • ดาวพฤหัสบดี (Jupiter – ): แทนการขยายตัวและโชคลาภ เกี่ยวข้องกับการเติบโตและการมองโลกในแง่ดี ดาวพฤหัสบดีสนับสนุนให้เราแสวงหาความรู้และประสบการณ์ใหม่ๆ เป็นตัวแทนของความสำเร็จและการเติบโต
    • ดาวเสาร์ (Saturn – ): แทนโครงสร้างและระเบียบวินัย ชี้ให้เห็นถึงความท้าทายและความรับผิดชอบ ดาวเสาร์เตือนให้เรามีความรับผิดชอบและจัดการกับอุปสรรคในชีวิต เป็นตัวแทนของความมั่นคงและความสามารถในการเผชิญหน้ากับข้อจำกัด
    • ดาวยูเรนัส (Uranus – ): แทนนวัตกรรมและการเปลี่ยนแปลง เกี่ยวข้องกับการกบฏและความคิดริเริ่ม ดาวยูเรนัสกระตุ้นให้เราทำสิ่งที่แปลกใหม่และคิดนอกกรอบ เป็นตัวแทนของความเปลี่ยนแปลงและการทำลายข้อจำกัดเดิมๆ
    • ดาวเนปจูน (Neptune – ): แทนความฝันและจิตวิญญาณ มีอิทธิพลต่อสัญชาตญาณและภาพลวงตา ดาวเนปจูนเชื่อมโยงเรากับโลกที่เหนือกว่าและกระตุ้นให้เราแสวงหาความหมายที่ลึกซึ้งในชีวิต
    • ดาวพลูโต (Pluto – ): แทนการเปลี่ยนแปลงและพลัง สะท้อนถึงการเปลี่ยนแปลงลึกซึ้งและการฟื้นฟู ดาวพลูโตช่วยให้เราพัฒนาและเปลี่ยนแปลงตนเองในระดับลึกสุด เป็นตัวแทนของการเปลี่ยนแปลงที่แท้จริงและการเกิดใหม่ในชีวิต

แง่มุมทางโหราศาสตร์ และอิทธิพลของดาวเคราะห์

ในแผนภูมิดวงชะตา แง่มุมทาง โหราศาสตร์ คือ มุมที่เกิดจากดาวเคราะห์ซึ่งแสดงถึงวิธีที่ดาวเคราะห์มีปฏิสัมพันธ์และมีอิทธิพลต่อกันและกัน แง่มุมทาง โหราศาสตร์ เหล่านี้มีบทบาทสำคัญในการกำหนดลักษณะและประสบการณ์ในชีวิตของบุคคล ซึ่งสามารถทำความเข้าใจได้ดังนี้:

    • กุม (Conjunction ): คือเมื่อดาวเคราะห์อยู่ในราศีเดียวกัน ทำให้พลังงานของดาวเคราะห์ทั้งสองรวมกันและเพิ่มพลังให้กันและกัน แง่มุมทาง โหราศาสตร์ นี้สามารถสร้างพลังงานที่แข็งแกร่งและมีประสิทธิภาพ ซึ่งอาจทำให้ลักษณะเด่นของดาวเคราะห์เหล่านั้นปรากฏชัดเจนในชีวิตของบุคคล
    • โยค (Sextile – ): คือมุม 60 องศา ซึ่งแสดงถึงความสามัคคีและโอกาสสำหรับการเติบโต แง่มุมทาง โหราศาสตร์ นี้ส่งเสริมการทำงานร่วมกันและการสนับสนุนระหว่างดาวเคราะห์ ทำให้มีโอกาสที่จะพัฒนาทักษะและความสามารถได้อย่างราบรื่น
    • ฉาก (Square ): คือมุม 90 องศา ซึ่งบ่งบอกถึงความตึงเครียดและความท้าทายที่ผลักดันให้เกิดการเปลี่ยนแปลง แง่มุมทาง โหราศาสตร์ นี้สร้างแรงกดดันและอุปสรรคที่ต้องแก้ไข ซึ่งสามารถทำให้เกิดการพัฒนาตัวเองและการเติบโตในระยะยาว
    • ตรีโกณ (Trine ): คือมุม 120 องศา ซึ่งแสดงถึงการไหลลื่นของพลังงานและพรสวรรค์ตามธรรมชาติ แง่มุมทาง โหราศาสตร์ นี้สร้างสภาพแวดล้อมที่เป็นไปตามธรรมชาติและสนับสนุนให้เกิดความสามารถที่เป็นเอกลักษณ์ของบุคคล โดยไม่ต้องมีการต้านทานหรือความขัดแย้ง
    • เล็ง (Opposition ): คือมุม 180 องศา ซึ่งเน้นถึงความขัดแย้งและความจำเป็นในการหาสมดุล แง่มุมทาง โหราศาสตร์ นี้แสดงถึงการเผชิญหน้าระหว่างพลังงานที่แตกต่างกัน ทำให้ต้องหาทางประนีประนอมและสร้างความสมดุลระหว่างสองด้านที่ต่างกันในชีวิต

เรือนโหราศาสตร์

ในโหราศาสตร์ตะวันตก จะมีแผนภูมิดวงชะตาเพื่อใช้ในการทำนาย ซึ่งถูกแบ่งออกเป็น 12 เรือน โดยในแต่ละเรือนถูกแทนมุมที่แตกต่างกันของชีวิต การที่ดาวเคราะห์ปรากฏในดวงชะตาของจะถูกกำกับไว้ด้วย ตำแหน่งของเรือนเหล่านี้

เรือนทั้งสิบสอง

เรือนที่_1
เรือนที่ 1

(เรือนแห่งตน) ตัวตน รูปลักษณ์ และความประทับใจแรก

เรือนที่_2
เรือนที่ 2

(เรือนแห่งมูลค่า) การเงิน ทรัพย์สิน และคุณค่าตัวเอง

เรือนที่_3
เรือนที่ 3

(เรือนแห่งการสื่อสาร) การสื่อสาร พี่น้อง และการเรียนรู้

เรือนที่_4
เรือนที่ 4

(เรือนแห่งบ้านและครอบครัว) ชีวิตครอบครัว บ้าน และพื้นฐานทางอารมณ์

เรือนที่_5
เรือนที่ 5

(เรือนแห่งความสุข) ความคิดสร้างสรรค์ ความรัก และการแสดงออก

เรือนที่ 6

(เรือนแห่งสุขภาพ) สุขภาพ การงาน และกิจวัตรประจำวัน

เรือนที่_7
เรือนที่ 7

(เรือนแห่งความสัมพันธ์) ความสัมพันธ์และการเป็นหุ้นส่วน

เรือนที่ 8

(เรือนแห่งการเปลี่ยนแปลง) การเปลี่ยนแปลง ทรัพยากรที่ใช้ร่วมกัน และความใกล้ชิด

เรือนที่_9
เรือนที่ 9

(เรือนแห่งปรัชญา) การเดินทาง การเรียนรู้ระดับสูง และความเชื่อ

เรือนที่_10
เรือนที่ 10

(เรือนแห่งอาชีพ) อาชีพ ภาพลักษณ์สาธารณะ และความสำเร็จ

เรือนที่_11
เรือนที่ 11

(เรือนแห่งมิตรภาพ) มิตรภาพ กลุ่ม และกิจกรรมทางสังคม


เรือนที่ 12

(เรือนแห่งจิตใต้สำนึก) จิตใต้สำนึก ความสันโดษ และจิตวิญญาณ

เรือนต่างๆ ส่งผลต่อแผนภูมิการเกิดอย่างไร

แผนภูมิการเกิด ในแต่ละเรือนแทนแง่มุมต่างๆ ของชีวิต เช่น ตัวตน ความสัมพันธ์ การงาน และครอบครัว ทั้งนั้น ดาวเคราะห์ และ ราศี ที่อยู่ในเรือนเหล่านี้จะมีอิทธิพลต่อวิธีที่คุณรับรู้และมีปฏิสัมพันธ์กับแง่มุมเหล่านี้ในชีวิตทั้งสิ้น ซึ่งมีความหมายในการพยากรณ์ในลำดับถัดไป

การตีความแผนภูมิการเกิดของโหราศาสตร์ตะวันตก

แผนภูมิดวงชะตาในโหราศาสตร์ตะวันตก หรือที่รู้จักกันว่า แผนภูมิการเกิด แสดงถึงตำแหน่งของดวงดาวบนท้องฟ้าในขณะที่คุณเกิดอย่างแม่นยำ แผนภูมินี้เป็นเหมือนแผนที่ที่ช่วยให้คุณเข้าใจบุคลิกภาพของตัวเอง จุดแข็ง และความท้าทายที่คุณอาจต้องเผชิญในชีวิต

 

การอ่านแผนภูมิการเกิดเริ่มต้นด้วยการวิเคราะห์ราศีที่ ดวงอาทิตย์ ดวงจันทร์ และดาวเคราะห์ต่างๆ อยู่ในขณะที่คุณเกิด ราศีเหล่านี้บ่งบอกถึงลักษณะและพฤติกรรมที่เป็นเอกลักษณ์ของคุณ เช่น ความกระตือรือร้น ความอดทน หรือความคิดสร้างสรรค์ นอกจากนี้ การวิเคราะห์ตำแหน่งของ ดาวเคราะห์ ในแต่ละเรือนสามารถให้ข้อมูลเชิงลึกเกี่ยวกับวิธีที่คุณมีปฏิสัมพันธ์กับแง่มุมต่างๆ ของชีวิต เช่น หากดวงอาทิตย์อยู่ในเรือนที่ 10 (เรือนแห่งอาชีพ) อาจบ่งบอกถึงความมุ่งมั่นและความทะเยอทะยานในอาชีพการงาน

 

แผนภูมิการเกิด ยังแสดงถึง มุมมองต่างๆ ที่เกิดขึ้นระหว่าง ดาวเคราะห์ ซึ่งอาจบ่งบอกถึงความท้าทายหรือโอกาสที่คุณจะได้พบเจอในชีวิต การทำความเข้าใจมุมมองทาง โหราศาสตร์ เหล่านี้จะช่วยให้คุณมองเห็นภาพรวมของชีวิตและหาทางแก้ไขปัญหาที่เกิดขึ้นได้อย่างมีประสิทธิภาพ

ดวงอาทิตย์ ดวงจันทร์ และลัคนา

โหราศาสตร์ตะวันตก ต้องทำความเข้าใจดวงอาทิตย์ ดวงจันทร์ และลัคนา เป็นสิ่งสำคัญ เพื่อเข้าใจทั้งตัวตนภายในและภายนอกของคุณ:

  • ดวงอาทิตย์: แสดงถึงตัวตน และ ลักษณะบุคลิกภาพที่โดดเด่นของคุณ มันบ่งบอกถึงสิ่งที่คุณเป็นในระดับพื้นฐานที่สุด ดวงอาทิตย์ ยังกำหนดแนวทางการดำเนินชีวิตของคุณและแสดงให้เห็นถึงสิ่งที่คุณให้คุณค่าในชีวิต เช่น หากคุณเกิดในราศีสิงห์ คุณอาจเป็นคนที่มีความมั่นใจและมีความคิดสร้างสรรค์
  • ดวงจันทร์: สะท้อนถึงอารมณ์และปฏิกิริยาที่เกิดขึ้นโดยสัญชาตญาณของคุณ ราศีจันทร์แสดงถึงวิธีที่คุณจัดการกับความรู้สึกและความต้องการทางอารมณ์ของคุณ เช่น หากคุณมีราศีจันทร์อยู่ในราศีมีน คุณอาจมีความเห็นอกเห็นใจและมีความลึกซึ้งทางอารมณ์
  • ลัคนา: มีอิทธิพลต่อรูปลักษณ์ภายนอกและความประทับใจแรกที่คุณให้กับผู้อื่น ลัคนาแสดงถึงภาพลักษณ์ที่คุณแสดงออกสู่โลกภายนอก เช่น หากลัคนาของคุณอยู่ในราศีเมษ คุณอาจถูกมองว่าเป็นคนที่มีความกระตือรือร้นและมีความมั่นใจ

การทำความเข้าใจทั้งสามสิ่งนี้จะช่วยให้คุณได้เห็นภาพรวมที่ครบถ้วนของทั้งตัวตนภายในและภายนอกของคุณ ข้อมูลเหล่านี้เป็นรากฐานทาง โหราศาสตร์ ของคุณ ซึ่งสามารถนำไปสู่การเข้าใจตนเองได้ลึกซึ้งยิ่งขึ้น

ธาตุ และลักษณะเฉพาะของธาตุ

ธาตุ (Elements): ธาตุทั้งสี่ ได้แก่ ไฟ ดิน ลม และน้ำ เป็นตัวแทนของลักษณะบุคลิกภาพและอารมณ์พื้นฐาน

 

  • ราศีธาตุไฟ (Fire Signs): ได้แก่ ราศีเมษ ราศีสิงห์ และราศีธนู มีลักษณะเป็นคนมีพลัง กระตือรือร้น และมีความคล่องตัว มักเป็นคนที่มีความกระตือรือร้นและเต็มไปด้วยแรงบันดาลใจ
  • ราศีธาตุดิน (Earth Signs): ได้แก่ ราศีพฤษภ ราศีกันย์ และราศีมังกร เป็นคนที่มีความเป็นจริง จิตใจมั่นคง และเชื่อถือได้ มักเป็นคนที่มีความสามารถในการจัดการกับปัญหาอย่างมีเหตุผล
  • ราศีธาตุลม (Air Signs): ได้แก่ ราศีเมถุน ราศีตุลย์ และราศีกุมภ์ เป็นคนที่มีความคิดสร้างสรรค์ สื่อสารเก่ง และมีความสัมพันธ์ที่ดี มักเป็นคนที่ชอบคิดและแลกเปลี่ยนความคิดเห็น
  • ราศีธาตุน้ำ (Water Signs): ได้แก่ ราศีกรกฎ ราศีพิจิก และราศีมีน เป็นคนที่มีอารมณ์อ่อนไหว มีสัญชาตญาณ และมีความเห็นอกเห็นใจ มักเป็นคนที่เข้าใจและใส่ใจในความรู้สึกของผู้อื่น

ลักษณะเฉพาะของธาตุ (Modalities): รูปแบบต่างๆ ได้แก่ ผู้นำ (Cardinal) คงที่ (Fixed) และเปลี่ยนแปลง (Mutable) ซึ่งบ่งบอกถึงวิธีที่แต่ละราศีจัดการกับการเปลี่ยนแปลงและการมีปฏิสัมพันธ์

 

  • ราศีผู้นำ (Cardinal Signs): ได้แก่ ราศีเมษ ราศีกรกฎ ราศีตุลย์ และราศีมังกร เป็นผู้ริเริ่มและผู้นำ มักเป็นคนที่มีความคิดริเริ่มและกล้าทำสิ่งใหม่ๆ
  • ราศีคงที่ (Fixed Signs): ได้แก่ ราศีพฤษภ ราศีสิงห์ ราศีพิจิก และราศีกุมภ์ เป็นคนที่มั่นคงและมีความมุ่งมั่น มักเป็นคนที่มีความสามารถในการทนทานต่อความยากลำบาก
  • ราศีเปลี่ยนแปลง(Mutable Signs): ได้แก่ ราศีเมถุน ราศีกันย์ ราศีธนู และราศีมีน เป็นคนที่ปรับตัวได้และยืดหยุ่น มักเป็นคนที่สามารถเปลี่ยนแปลงและปรับตัวเข้ากับสถานการณ์ใหม่ๆ ได้อย่างรวดเร็ว

โหราศาสตร์ตะวันออก: โหราศาสตร์เวท และโหราศาสตร์จีน

โหราศาสตร์ตะวันออก เป็นอีกองค์ความรู้ที่กว้างใหญ่และประกอบด้วยขนบธรรมเนียมประเพณีที่หลากหลายซึ่งพัฒนามานานนับพันปี ระบบที่รู้จักกันดีที่สุดสองระบบคือ โหราศาสตร์เวท หรือ ดวงไทย และ โหราศาสตร์จีน หรือ ดวงจีน ต้นกำเนิดของ ดวงไทย  ได้รับวัฒนธรรมมาจากศาสนาพราหมณ์ในอินเดีย ส่วน ดวงจีน มาจากลัทธิเต๋าในประเทศจีน โหราศาสตร์ทั้งสองระบบเป็นการนำเสนอแนวคิดที่เป็นเอกลักษณ์ของธรรมชาติ และมนุษย์ ซึ่งนำไปสู่การทำนายโชคชะตาของพวกเขา

โหราศาสตร์พระเวท โหราศาสตร์ภารตะ (Jyotish)

ดวงไทย โหราศาสตร์เวท หรือที่เรียกว่า โชติษะ เป็นระบบโบราณที่มีรากฐานมาจากปรัชญา และวัฒนธรรมที่ได้รับมาจากอินเดีย ดวงไทย เกิดขึ้นจากการศึกษาและความเชื่อเกี่ยวกับอิทธิพลของ ดวงดาว และดาวเคราะห์ที่มีต่อชีวิตมนุษย์ โดยมีพื้นฐานมาจากคัมภีร์พระเวท ซึ่งเป็นคัมภีร์ศักดิ์สิทธิ์จากอินเดียโบราณที่เขียนขึ้นประมาณ 1500 ปีก่อนคริสต์ศักราช โดยคัมภีร์นี้ถูกศาสนาพราหมณ์ใช้เป็นเครื่องมือในการให้คำแนะนำและข้อมูลเชิงลึกในด้านต่างๆ ของชีวิต รวมถึงบุคลิกภาพ ความสัมพันธ์ และการพัฒนาทางจิตวิญญาณ

จักรราศีฤกษ์ และ 12ราศี

ดวงไทย โหราศาสตร์เวท จะใช้จักรราศีแบบนิรายนะ ซึ่งอ้างอิงจากตำแหน่งของกลุ่มดาวที่คงที่ จักรราศีแบบนิรายนะสอดคล้องกับตำแหน่งที่แท้จริงของดวงดาวและดาวเคราะห์บนท้องฟ้ามากกว่า จักรราศี สามารถแบ่งออกเป็น 12 ราศี โดยแต่ละ ราศี มีลักษณะเฉพาะตัวและถูกปกครองโดยดาวเคราะห์แต่ละดวง

เมษ
ราศีเมษ (♈︎)

14 เม.ย. - 14 พ.ค. สัญลักษณ์คือแกะ ปกครองโดยดาวอังคาร แทนความกล้าหาญและความริเริ่ม

ราศีพฤษภ
ราศีพฤษก (♉︎)

15 พ.ค. - 14 มิ.ย. สัญลักษณ์คือวัว ปกครองโดยดาวศุกร์ แทนความมั่นคงและความสุขทางกาย

ราศีเมถุน
ราศีมิถุน (♊︎)

15 มิ.ย. - 15 ก.ค. สัญลักษณ์คือคนคู่ ปกครองโดยดาวพุธ แทนการสื่อสารและความหลากหลาย

ราศีกรฏ
ราศีกรกฎ (♋︎)

16 ก.ค. - 16 ส.ค. สัญลักษณ์คือปู ปกครองโดยดวงจันทร์ แทนความเอาใจใส่และความลึกซึ้งทางอารมณ์

ราศีสิงห์
ราศีสิงห์ (♌︎)

17 ส.ค. - 16 ก.ย. สัญลักษณ์คือสิงโต ปกครองโดยดวงอาทิตย์ แทนความมั่นใจและความเป็นผู้นำ

ราศีกันย์
ราศีกันย์ (♍︎)

17 ก.ย. - 16 ต.ค. สัญลักษณ์คือหญิงสาว ปกครองโดยดาวพุธ แทนทักษะการวิเคราะห์และความเป็นจริง

ราศีตุลย์
ราศีตุลย์ (♎︎)

17 ต.ค. - 15 พ.ย. สัญลักษณ์คือคันชั่ง ปกครองโดยดาวศุกร์ แทนความสมดุลและความกลมกลืน

ราศีพิจิก
ราศีพิจิก (♏︎)

16 พ.ย. - 15 ธ.ค. สัญลักษณ์คือแมงป่อง ปกครองโดยดาวอังคาร แทนความเข้มข้นและการเปลี่ยนแปลง

ราศีธนู
ราศีธนู (♐︎)

16 ธ.ค. - 13 ม.ค. สัญลักษณ์คือนักยิงธนู ปกครองโดยดาวพฤหัสบดี แทนการสำรวจและปัญญา

ราศีมังกร
ราศีมังกร (♑︎)

14 ม.ค. - 12 ก.พ. สัญลักษณ์คือแพะ ปกครองโดยดาวเสาร์ แทนระเบียบวินัยและความทะเยอทะยาน

ราศีกุมภ์
ราศีกุมภ์ (♒︎)

13 ก.พ. - 13 มี.ค. สัญลักษณ์คือผู้ถือถังน้ำ ปกครองโดยดาวเสาร์ แทนนวัตกรรมและความเป็นมนุษยธรรม

ราศีมีน
ราศีมีน (♓︎)

14 มี.ค. - 13 เม.ย. สัญลักษณ์คือปลา ปกครองโดยดาวพฤหัสบดี แทนความเห็นอกเห็นใจและจิตวิญญาณ

ดาวเคราะห์ และอิทธิพลของดาวเคราะห์ (Grahas)

ดาวนพเคราะห์ หรือ กรหะ (Grahas) มีจำนวนทั้งหมด 9 ดวง ซึ่งได้ถูกอ้างอิงจากตำนานการสร้างโลกของพระอิศวร ที่สร้าง เทพนพเคราะห์ ที่ทรงพลังที่มีอิทธิพลต่อสิ่งมีชีวติ โดยดาวแต่ละดวงมีความเกี่ยวข้องกับพลังงานและลักษณะเฉพาะดังนี้

 

  • ดาวอาทิตย์ (สุริยะ): แทนดวงวิญญาณ พลังชีวิต และ อำนาจ
  • ดาวจันทร์ (จันทรา): ควบคุมจิตใจ อารมณ์ และ สัญชาตญาณ
  • ดาวพุธ (พุธ): มีอิทธิพลต่อสติปัญญา การสื่อสาร และ การเรียนรู้
  • ดาวศุกร์ (ศุกร์): เกี่ยวข้องกับความรัก ความงาม และ ความคิดสร้างสรรค์
  • ดาวอังคาร (มังคละ): แทนพลังงาน ความกล้าหาญ และ ความหลงใหล
  • ดาวพฤหัสบดี (ดาวพฤหัสบดี): เป็นสัญลักษณ์ของปัญญา การขยายตัว และ จิตวิญญาณ
  • ดาวเสาร์ (ศนิ): แสดงถึงระเบียบวินัย ความรับผิดชอบ และ กรรม
  • ดาวราหู : หมายถึง ความปรารถนา และ ความทะเยอทะยาน
  • ดาวเกตุ : แทน จิตวิญญาณ และ การปล่อยวาง

โหราศาสตร์จีน

ดวงจีน โหราศาสตร์จีน เป็นศาสตร์โบราณที่มีประวัติยาวนานกว่าหลายพันปี สะท้อนให้เห็นถึงภูมิปัญญาอันล้ำลึกของชาวจีนในการทำความเข้าใจความสัมพันธ์ระหว่างมนุษย์กับจักรวาล ศาสตร์การทำนายของจีนมีความผูกพันกับปรัชญาเต๋า ที่ต้องความสมดุลพลังงานของตนเองกับพลังงานของจักรวาล ซึ่งสามารถแปลพลังงานผ่านตัวอักษรที่เป็นศาสตร์แปดอักษรแห่งการทำนาย ทำให้ผู้ทำนายสามารถอ่านพลังงานผ่านตัวอักษร

โป่ยหยี่สี่เถียว ศาสตร์แปดอักษรแห่งการทำนาย

ศาสตร์แปดอักษร ใช้การทำนายมามากกว่าพันปี ตามความเชื่อของเต๋า ถูกพัฒนาขึ้นมาเพื่อใช้พิจารณาถึงความสมดุลของฟ้า ดิน คน โดยอาศัยหลักการของ “หยินหยาง” “ธาตุทั้งห้า” (五行) และ “12 นักษัตร” ซึ่งเป็นพื้นฐานของวิธีคิดแบบจีนที่มองโลกในเชิงพลังงาน และความสมดุลของจักรวาล

หยิน และหยาง กับความสมดุลในโหราศาสตร์จีน

หยินหยาง เป็นปรัชญาพื้นฐานของเต๋าที่มองว่าทุกสิ่งในจักรวาลประกอบด้วยพลังสองด้านที่ตรงข้ามที่เติมเต็มซึ่งกันและกัน หยินหยาง เป็นสัญลักษณ์ของพลังงานสองแบบที่ต่างกัน ทั้งสองพลังนี้มีความสัมพันธ์ที่ซับซ้อนและเปลี่ยนแปลงอยู่ตลอดเวลา ไม่สามารถแยกออกจากกันได้อย่างสมบูรณ์

 

 

  • หยิน แทนพลังงานที่สงบเงียบ มืด และเย็น
  • หยาง เป็นพลังงานที่เคลื่อนไหว สว่าง และร้อน 

 

ความสมดุลเกิดขึ้นและถูกพบเจอในชีวิตประจำวัน เช่น กลางวันเป็นหยางสร้างความกระตืนรือร้นให้กับสิ่งมีชีวิต ในทางกลับกัน กลางคืนเป็นหยินที่มอบความสงบและพักผ่อนเพื่อฟื้นฟูพลังงานที่ถูกใช้ไปในแต่ละวัน เพื่อรักษาสมดุลในธรรมชาติและชีวิต ดังนั้นการปรับสมดุลระหว่าง หยินหยาง จึงมีความสำคัญอย่างยิ่งในช่วยให้เรามองเห็นภาพรวมของชีวิตและธรรมชาติในมิติที่ลึกซึ้งมากขึ้น

ทฤษฎีธาตุทั้ง 5

ธาตุทั้งห้า (五行) เป็นองค์ประกอบสำคัญใน โหราศาสตร์จีน และเป็นพื้นฐานในการทำความเข้าใจการเปลี่ยนแปลงของพลังงานในธรรมชาติ โดยธาตุทั้งห้าประกอบด้วย ไม้ ไฟ ดิน ทอง และน้ำ โดยแต่ละธาตุมีคุณลักษณะและความสัมพันธ์ที่ซับซ้อนซึ่งส่งผลลักษณะนิสัยของแต่ละบุคคล


  • ไม้ (): ตัวแทนของการเจริญเติบโต ความยืดหยุ่น และการพัฒนา
  • ไฟ (): ปฏิภาณอันแรงกล้า ความเปลี่ยนแปลง และความกระตือรือร้น
  • ดิน (): ดินแสดงถึงความมั่นคง การบำรุงรักษา และการปกป้อง
  • ทอง (): ความแข็งแรง ความชัดเจน และความมุ่งมั่น
  • น้ำ (): ความลึกลับ ความปรับตัว และสติปัญญา


นอกจากนี้ธาตุทั้งห้ายังมีความสัมพันธ์ระหว่างกันและกัน ซึ่งถูกนำไปใช้ใน การพยากรณ์ และ วิเคราะห์ดวงชะตา และสร้างความสมดุลให้แก่ชีวิต ทั้งนี้การเข้าใจธาตุทั้งห้าจึงเป็นหนึ่งในการดึงพลังงานจากจักรวาลมาใช้เสริมสร้างความสมดุล และเชื่อมโยงพลังงานกับวิถีชีวิตมนุษย์ได้อย่างลึกซึ้ง

Wood
ธาตุไม้ (木)

การเจริญเติบโต ความยืดหยุ่น และการพัฒนา

Fire
ไฟ (火)

ปฏิภาณอันแรงกล้า ความเปลี่ยนแปลง และความกระตือรือร้น

Earth-symbol
ดิน (土)

ความมั่นคง การบำรุงรักษา และการปกป้อง

Metal
ทอง (金)

ความแข็งแรง ความชัดเจน และความมุ่งมั่น

Water
น้ำ (水)

ความลึกลับ ความปรับตัว และสติปัญญา

12 นักษัตร

12 นักษัตร เป็นระบบที่ใช้สัตว์ทั้ง 12 ชนิด เป็นตัวแทนปีต่าง ๆ ในวงจรทั้งหมด 12 ปี ซึ่งในแต่ละปีจะมีสัตว์หนึ่งตัวถูกใช้เป็นสัญลักษณ์แทนปีนั้นๆ โดยสัตว์แต่ละตัวจะมีลักษณะและนิสัยเฉพาะตัวที่เชื่อมโยงกับบุคลิกภาพและชีวิตของผู้ที่เกิดในปีนั้น ๆ ด้วย ระบบนี้นอกจากจะใช้บ่งบอกปีแล้วยังถูกนำมาใช้ในการทำนายลักษณะนิสัยและการดำเนินชีวิตของบุคคลได้อีด้วย

ปีหนู
ปีชวด​(鼠)

ความฉลาด มีไหวพริบ และการปรับตัวไว

ฉลู-ปีวัว
ปีฉลู (牛)

อดทน ขยันขันแข็ง และเชื่อถือได้

ปีขาล (虎)

กล้าหาญ มั่นใจ และมีความเป็นผู้นำ

เถาะ-ปีกระต่าย
ปีเถาะ (兔)

อ่อนโยน มีเมตตา และ มีเสน่ห์

มะโรง-ปีมังกร
ปีมะโรง (龍)

ทรงพลัง มีเสน่ห์ และมีความทะเยอทะยาน

มะเส็ง-ปีงูเล็ก
ปีมะเส็ง (蛇)

ฉลาด มีความลึกลับ และ มีสัญชาตญาณที่ดี

มะเมีย-ปีม้า
ปีมะเมีย (馬)

กระตือรือร้น รักอิสระ และ ชอบการผจญภัย

ปีมะแม (羊)

อ่อนโยน มีความเห็นอกเห็นใจ และ สร้างสรรค์

วอก-ปีลิง
ปีวอก (猴)

ฉลาด มีความสนุกสนาน และ มีความคิดที่รวดเร็ว

ปีระกา (雞)

ช่างสังเกตุ ตรงไปตรงมา และ มีความรับผิดชอบ

จอ-ปีหมา
ปีจอ (狗)

ซื่อสัตย์ ภักดี และ ปกป้องได้

กุน-ปีหมู
ปีกุน (豬)

ใจกว้าง สุภาพอ่อนโยน และ มีความอบอุ่น